15-229 ภิกษุวัชชีบุตร



พระไตรปิฎก


๙. วัชชีปุตตสูตร
ว่าด้วยภิกษุวัชชีบุตร
[๗๘๓] สมัยหนึ่ง ภิกษุวัชชีบุตรรูปหนึ่งอยู่ ณ ราวป่าแห่งหนึ่ง เขตกรุงเวสาลี
สมัยนั้น ในกรุงเวสาลี ได้มีการละเล่นมหรสพตลอดทั้งคืน
[๗๘๔] ครั้งนั้น ภิกษุนั้นได้ฟัง
เสียงดนตรีที่บุคคลบรรเลงก้องกังวานอยู่ในกรุงเวสาลี คร่ำครวญอยู่ ได้กล่าวคาถานี้
ในเวลานั้นว่า
เราอยู่ในป่าคนเดียว
ดุจท่อนไม้ที่เขาทิ้งไว้ในป่า ฉะนั้น
ใครหนอจะเลวกว่าเราในราตรีเช่นนี้
[๗๘๕] ลำดับนั้น เทวดาผู้สิงสถิตอยู่ในราวป่านั้น มีความอนุเคราะห์หวังดีต่อท่าน
ประสงค์จะให้ภิกษุนั้นสลดใจ จึงเข้าไปหาภิกษุนั้นถึงที่อยู่แล้วได้กล่าวกับภิกษุนั้น
ด้วยคาถาว่า
ท่านอยู่ในป่าคนเดียว
ดุจท่อนไม้ที่เขาทิ้งไว้ในป่า ฉะนั้น
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายเป็นอันมากยังรักท่านอยู่
ดุจสัตว์นรกยินดีต่อผู้ที่จะไปสวรรค์ ฉะนั้น A
ลำดับนั้น ภิกษุนั้นถูกเทวดาทำให้สลดใจ เกิดความสลดใจแล้ว
วัชชีปุตตสูตรที่ ๙ จบ
เชิงอรรถ
A ดูเทียบ ขุ.เถร. (แปล) ๒๖/๖๒/๓๒๖

บาลี



วชฺชีปุตฺตสุตฺต
[๗๘๓] เอก สมย อฺตโร วชฺชีปุตฺตโก ภิกฺขุ เวสาลิย
วิหรติ อฺตรสฺมึ วนสณฺเฑ ฯ เตน โข ปน สมเยน ๑
เวสาลิย สพฺพรตฺติวาโร ๒ โหติ ฯ
[๗๘๔] อถ โข โส ภิกฺขุ เวสาลิย ตุริย ตาฬิต วาทิตนิคฺโฆสสทฺท
สุตฺวา ปริเทวมาโน ตาย เวลาย อิม คาถ อภาสิ
เอกกา มย อรฺเ วิหราม
อปวิฏฺว ๑ วนสฺมึ ทารุก
เอตาทิสิกาย รตฺติยา
โก สุ นามเมฺหหิ ปาปิโยติ ฯ
[๗๘๕] อถ โข ยา ตสฺมึ วนสณฺเฑ อธิวตฺถา เทวตา ตสฺส
ภิกฺขุโน อนุกมฺปิกา อตฺถกามา ต ภิกฺขุ สเวเชตุกามา เยน โส๊
ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ อุปสงฺกมิตฺวา ต ภิกฺขุ คาถาย อชฺฌภาสิ
เอกโกว ตฺว อรฺเ วิหรสิ
อปวิฏฺว วนสฺมึ ทารุก
ตสฺส เต พหุกา ปิหยนฺติ
เนรยิกา วิย สคฺคคามินนฺติ ฯ
อถ โข โส ภิกฺขุ ตาย เทวตาย สเวชิโต สเวคมาปาทีติ ฯ

******************

๑ ม. เอตฺถนฺตเร วชฺชิปุตฺตโกติ อตฺถิ ฯ ๒ ม. ยุ. อ. สพฺพรตฺติจาโร ฯ

อรรถกถา


อรรถกถาวัชชีปุตตสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในวัชชีปุตตสูตรที่ ๙ ต่อไปนี้ :-
บทว่า วชฺชีปุตฺตโก คือ ราชบุตรในแคว้นวัชชี. สละเศวตฉัตร
ออกบวช. บทว่า สพฺพรตฺติจาโร ความว่า การรื่นเริงที่เขาป่าวร้อง การ
เล่นในเดือนสิบสอง ตกแต่งด้วยธงชัยและธงแผ่นผ้าเป็นไปทั่วพระนคร ชื่อว่า
ผู้เที่ยวตลอดทั้งคืน. จริงอยู่ นักขัตฤกษ์นี้ มีติดต่อเป็นอันเดียวกันตลอด
ถึงชั้นจาตุมหาราชิกา. บทว่า ตุริยตาฬิตวาทิตนิคฺโฆสสทฺทํ คือ เสียง
กึกก้องแห่งดนตรีมีกลองเป็นต้นที่เขาตีแล้ว และเครื่องสายมีพิณเป็นต้นที่เขา
บรรเลงแล้ว. บทว่า อภาสิ ความว่า ได้ยินว่า นกรุงเวสาลีมีพระราชาอยู่
๗,๗๐๗ องค์ อุปราชและเสนาบดีเป็นต้นของพระราชาเหล่านั้น ก็มีเท่านั้น
เหมือนกัน . เมื่อพระราชาเหล่านั้นแต่งตัวแล้วลงสู่ถนน เพื่อประสงค์จะเล้น
นักษัตร ภิกษุวัชชีบุตรเดินจงกรมอยู่ในที่จงกรมใหญ่ประมาณ ๖๐ ศอก เห็น
พระจันทร์ลอยอยู่บนท้องฟ้า ยืนอาศัยแผ่นกระดานปลายที่จงกรมกล่าวแล้ว.
บทว่า อปวิฏฺํว วนสิ ทารุกํ ความว่า เหมือนท่อนไม้ที่เขาทิ้งไว้ในป่า
เพราะเป็นผู้เว้นจากเครื่องแต่งตัวคือผ้าโพก. บทว่า ปาปิโย ความว่า จะมี
ใครอื่นที่เลวไปกว่าเรา. บทว่า ปิหยนฺติ ความว่า เทวดาและมนุษย์เป็น
อันมากปรารถนาต่อท่านว่า พระเถระอยู่ป่า ถือผ้าบังสุกุล ถือบิณฑบาต
ถือเดินบิณฑบาตตามลำดับ มีความปรารถนาน้อย มีความสันโดษ. บทว่า
สคฺคคามินํ คือ กำลังไปสู่สวรรค์บ้าง ไปแล้วบ้าง.
จบอรรถกถาวัชชีปุตตสูตรที่ ๙

สนทนาธรรม

comments

Got anything to say? Go ahead and leave a comment!