15-019 กระท่อม



พระไตรปิฎก


๙. กุฏิกาสูตร
ว่าด้วยกระท่อม
[๔๐] เทวดาทูลถามว่า
ท่านไม่มีกระท่อมหรือ
ท่านไม่มีรังหรือ
ท่านไม่มีผู้สืบสกุลหรือ
ท่านเป็นผู้หลุดพ้นจากเครื่องผูกแล้วหรือ
[๔๑] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
แน่นอน เราไม่มีกระท่อม
แน่นอน เราไม่มีรัง
แน่นอน เราไม่มีผู้สืบสกุล
แน่นอน เราเป็นผู้หลุดพ้นจากเครื่องผูกแล้ว
[๔๒] เทวดาทูลถามว่า
กระท่อมที่ข้าพเจ้ากล่าวกับท่าน คืออะไร
รังที่ข้าพเจ้ากล่าวกับท่าน คืออะไร
ผู้สืบสกุลที่ข้าพเจ้ากล่าวกับท่าน คืออะไร
เครื่องผูกที่ข้าพเจ้ากล่าวกับท่าน คืออะไร
[๔๓] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
กระท่อมที่ท่านกล่าวกับเรา คือมารดา
รังที่ท่านกล่าวกับเรา คือภรรยา
ผู้สืบสกุลที่ท่านกล่าวกับเรา คือบุตร
เครื่องผูกที่ท่านกล่าวกับเรา คือตัณหา
เทวดากล่าวว่า
ดีจริง ท่านไม่มีกระท่อม
ดีจริง ท่านไม่มีรัง
ดีจริง ท่านไม่มีผู้สืบสกุล
ดีจริง ท่านเป็นผู้หลุดพ้นจากเครื่องผูกแล้ว
กุฏิกาสูตรที่ ๙ จบ
หมายเหตุ *** ขออภัย ในเสียงอ่าน คำว่า กระท่อม  อ่านผิดเป็น กระหม่อม ***

บาลี



กุฏิกาสุตฺต
[๔๐] กจฺจิ เต กุฏิกา นตฺถิ กจฺจิ นตฺถิ กุลาวกา
กจฺจิ สนฺตานกา นตฺถิ กจฺจิ มุตฺโตสิ พนฺธนาติ ฯ
[๔๑] ตคฺฆ เม กุฏิกา นตฺถิ ตคฺฆ นตฺถิ กุลาวกา
ตคฺฆ สนฺตานกา นตฺถิ ตคฺฆ มุตฺโตมฺหิ พนฺธนาติ ฯ
[๔๒] กินฺตาห กุฏิก พฺรูมิ กินฺเต พฺรูมิ กุลาวก
กินฺเต สนฺตานก พฺรูมิ กินฺตาห พฺรูมิ พนฺธนนฺติ ฯ
[๔๓] มาตร กุฏิก พฺรูสิ ภริย พฺรูสิ กุลาวก
ปุตฺเต สนฺตานเก พฺรูสิ ตณฺห เม พฺรูสิ พนฺธนนฺติ ฯ
สาหุ เต กุฏิกา นตฺถิ สาหุ นตฺถิ กุลาวกา
สาหุ สนฺตานกา นตฺถิ สาหุ มุตฺโตสิ พนฺธนาติ ฯ

อรรถกถา


อรรถกถากุฏิกาสูตร
วินิจฉัยในกุฏิกาสูตรที่ ๙ ต่อไป :-
บทว่า กจฺจิ เต กุฏิกา เป็นต้น อธิบายว่า เทวดานี้ประมวลปัญหา
เหล่านี้มาผูกเป็นคาถาโดยกระทำมารดาให้เป็นดังกระท่อม เพราะหมายเอาการ
อยู่ในท้อง ๑๐ เดือน กระทำภรรยาให้เป็นดังรัง (รังนก) ด้วยอำนาจแห่งความ
อาลัย เหมือนพวกนกเที่ยวหาอาหารตลอดวันแล้วก็มาเกาะอยู่ในรังในเวลาราตรี
ฉันใด สัตว์ทั้งหลาย ก็ฉันนั้นเหมือนกัน แม้จะไปในที่นั้น ๆ แล้วก็ย่อมมา
สู่สำนักแห่งมาตุคาม กระทำบุตรทั้งหลายให้เป็นดังเครื่องสืบต่อ เพราะหมาย
เอาการสืบต่อตระกูลและประเพณี แล้วจึงทูลถามกะพระผู้มีพระภาคเจ้า. แม้
พระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อจะทรงวิสัชนาปัญหาแก่เทวดานั้น จึงตรัสคำว่า ตคฺฆ
เป็นต้น แปลว่า แน่ละ กระท่อมของเราไม่มี แน่ละ รังของเราไม่มี แน่ละ
เครื่องสืบต่อของเราไม่มี แน่ละ เราเป็นผู้พ้นแล้วจากเครื่องผูก.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ตคฺฆ เป็นนิบาต ในคำโดยส่วนเดียว.
บทว่า นตฺถิ ได้แก่ ละได้แล้ว เพราะความที่เราเป็นบรรพชิต อีกอย่างหนึ่ง
ชื่อว่า ไม่มี เพราะไม่มีการอยู่ในท้องของมารดาในวัฏฏะอีก ไม่มีการเลี้ยงดู
ภรรยา ไม่มีการเกิดขึ้นแห่งบุตร. เทวดาดำริว่า ปัญหาอันไม่เปิดเผยที่เราผูก
ดุจมัดไว้แล้วทูลถาม และสมณะนี้ ก็วิสัชนาปัญหาสักว่าอัน เราถามแล้วทีเดียว
พระองค์จะทรงทราบอยู่ซึ่งอัธยาศัยของเราหรือไม่หนอ จึงตรัสแก้แล้ว หรือว่า
พระองค์ไม่ทรงทราบคำอย่างใดอย่างหนึ่ง ตรัสแล้วเพียงคล่องปาก ดังนี้ จึง
กล่าวคำว่า กินฺตาหํ เป็นต้นอีก. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า กินฺตาหํ
แก้เป็น กึ เต อหํ แปลว่า ข้าพเจ้ากะท่านว่าอะไร.
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อจะตรัสบอกแก่เทวดานั้น จึงตรัส
คำว่า มาตรํ เป็นต้น แปลว่า ท่านกล่าวมารดาว่าเป็นกระท่อม ท่านกล่าว
ภรรยาว่าเป็นรัง ท่านกล่าวบุตรว่าเป็นเครื่องสืบต่อ ท่านกล่าวตัณหาว่าเป็น
เครื่องผูกแก่เรา. เทวดาฟังพระดำรัสนั้นแล้วยินดีชื่นชมอนุโมทนาด้วยคาถาว่า
สาหุ เต เป็นต้น แปลว่า ดีจริง กระท่อมของท่านไม่มี ดีจริง รังของท่านไม่มี
ดีจริง เครื่องสืบต่อของท่านไม่มี ดีจริง ท่านเป็นผู้พ้นแล้วจากเครื่องผูก ดังนี้
ร่าเริงยินดีแล้วบูชาพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยของหอมและดอกไม้ทั้งหลายแล้วไป
สู่เทวสถาน ดังนี้แล.
จบอรรถกถากุฏิกาสูตร ที่ ๙

สนทนาธรรม

comments

Got anything to say? Go ahead and leave a comment!