15-016 ความหลับและความเกียจคร้าน
พระไตรปิฎก
๖. นิททาตันทิสูตร
ว่าด้วยความหลับและความเกียจคร้าน
[๓๔] เทวดากล่าวว่า
อริยมรรค A ไม่ปรากฏแก่เหล่าสัตว์ในโลกนี้
เพราะความหลับ ความเกียจคร้าน การบิดกาย
ความไม่ยินดีและความเมาอาหาร
[๓๕] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
เพราะใช้ความเพียรกำจัดความหลับ
ความเกียจคร้าน การบิดกาย
ความไม่ยินดีและความเมาอาหารนั้น
อริยมรรค B จึงบริสุทธิ์ได้
นิททาตันทิสูตรที่ ๖ จบ
เชิงอรรถ
A อริยมรรค ในที่นี้หมายถึงโลกุตตรมรรค (สํ.ส.อ. ๑/๑๖/๓๖)
B อริยมรรค ในที่นี้หมายถึงโลกิยมรรคและโลกุตตรมรรค (สํ.ส.อ. ๑/๑๖/๓๖)
บาลี
นิทฺทาตนฺทิสุตฺต
[๓๔] นิทฺทา ตนฺที วิชิมฺหิตา อรตี ๘ ภตฺตสมฺมโท
เอเตน นปฺปกาสติ อริยมคฺโค อิธ ปาณินนฺติ ฯ
[๓๕] นิทฺท ตนฺทึ วิชิมฺหิต อรตึ ภตฺตสมฺมท
วิริเยน น ปณาเมตฺวา อริยมคฺโค วิสุชฺฌตีติ ฯ
******************
๘ ยุ. วิชมฺภิกา อรตี ฯ ม. วิชมฺภิตา ฯ
#อ. วิชมฺหิตา ฯ
อรรถกถา
อรรถกถานิททาตันทิสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในนิททาตันทิสูตรที่ ๖ ต่อไป :-
บทว่า นิทฺทา อธิบายว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนอัคคิ-
เวสนะ เราย่อมทราบ ในเดือนท้าย ฤดูคิมหันต์ (ฤดูร้อน) เราก้าวลงสู่
ความหลับ ดังนี้ เพราะความหลับอันเป็นอัพยากตะเห็นปานนี้ ถีนมิทธะจึง
เกิดขึ้นในอกุศลจิตอันเป็นสสังขาริกของพระเสขะและปุถุชนทั้งหลาย ทั้งในส่วน
เบื้องต้นและเบื้องปลาย. บทว่า ตนฺที ได้แก่ ความโงกง่วงอันจรมาเกิดขึ้น
ในเวลาหิวจัดและเย็นจัดเป็นต้น. คำนี้ สมจริง ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส
ไว้ว่า กตมา ตนฺทิ… บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ตนฺที เป็นไฉน
ความง่วงงุน กิริยาที่ง่วงงุน สภาพจิตที่ง่วงงุน ความเกียจคร้าน กิริยาที่
เกียจคร้าน สภาพจิตที่เกียจคร้าน อันใด นี้เรากล่าวว่า ทันที ดังนี้. บทว่า
วิชิมฺหิตา แปลว่า ความบิดกาย. บทว่า อรติ ได้แก่ ความไม่พอใจใน
ธรรมฝ่ายกุศล. บทว่า ภตฺตสมฺมโท แปลว่า ความมึนเมาเพราะอาหาร
ความอึดอัดเพราะอาหาร. ก็ความพิสดารแห่งคำเหล่านี้มาแล้วในพระอภิธรรม
โดยนัยเป็นต้นว่า ตตฺถ กตมา วิชิมฺหิกา ยา กายสฺส วิชิมฺหนา แปลว่า
บรรดาคำเหล่านั้น คำว่า ความบิดกายเป็นไฉน ความเหยียดแห่งกาย… อัน
ใด. บทว่า เอเตน ความว่า ความเศร้าหมองด้วยอุปกิเลสมีความหลับ
เป็นต้นนี้ เป็นปรากฏการณ์ที่ห้ามได้. บทว่า นปฺปกาสติ ได้แก่ ไม่ส่อง
แสง คือ ไม่ปรากฏ. บทว่า อริยมคฺโค ได้แก่ โลกุตรมรรค. บทว่า
อิธ แปลว่า ในโลกนี้. บทว่า ปาณินํ แปลว่า แก่สัตว์ทั้งหลาย. บทว่า
วิรเยน ได้แก่ ความเพียรซึ่งเกิดพร้อมกับมรรค. บทว่า นํ ปณาเมตฺวา
นี้ได้แก่ นำกิเลสออกแล้ว. บทว่า อริยมคฺโค ได้แก่ โลกิยะและโลกุตร-
มรรค. เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่ามรรคย่อมบริสุทธิ์เพราะ
นำอุปกิเลสออกแล้วด้วยมรรคนั่นแหละ ดังนี้แล.
จบอรรถกถานิททาตันทิสูตรที่ ๖