10-095 ชนวสภยักษ์



พระไตรปิฎก


ชนวสภยักษ์
[๒๘๐] อานนท์ ทันใดนั้น ยักษ์ที่ไม่ปรากฏตัว เปล่งเสียงให้ได้ยินว่า
‘ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้าพระองค์ชื่อชนวสภะ A ข้าแต่พระสุคต ข้าพระองค์ชื่อ
ชนวสภะ’ อานนท์ ชื่อชนวสภะนี้ เธอรู้จัก (หรือ) เคยได้ยินมาก่อนหรือไม่”
ท่านพระอานนท์กราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ชื่อชนวสภะนี้ ข้าพระองค์
ไม่รู้จัก (และ)ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่พอข้าพระองค์ได้ยินชื่อชนวสภะเท่านั้น ขนก็
ลุกชูชัน จึงคิดว่า ‘ผู้ที่ได้นามว่า ‘ชนวสภะ’ นี้คงไม่ใช่ยักษ์ชั้นต่ำเป็นแน่”
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “อานนท์ ขณะที่มีเสียงดังขึ้น ยักษ์มีผิวพรรณผุดผ่อง
ยิ่งนัก ปรากฏขึ้นต่อหน้าเรา ยักษ์นั้นเปล่งเสียงให้ได้ยินอีกเป็นครั้งที่ ๒ ว่า ‘ข้าแต่
พระผู้มีพระภาค ข้าพระองค์คือพิมพิสาร ข้าแต่พระสุคต ข้าพระองค์คือพิมพิสาร
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๗ ที่ข้าพระองค์เข้าถึงความเป็นผู้อยู่ร่วมกับท้าวเวสวัณมหาราช
จุติจากสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชนี้แล้ว สามารถไปเกิดเป็นพระราชาในโลกมนุษย์
{๑๙๒} ข้าพระองค์จุติจากเทวโลก ๗ ครั้ง
จากมนุษยโลก ๗ ครั้ง
รวมเวลาท่องเที่ยวอยู่ ๑๔ ครั้ง
รู้จักภพที่เคยอยู่อาศัยในกาลก่อน
[๒๘๑] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ไม่มีทางตกต่ำ ทราบดีถึงความไม่
ตกต่ำมาช้านาน ข้าพระองค์ตั้งความปรารถนาไว้เพื่อเป็นพระสกทาคามี B”
ท่านพระอานนท์ทูลถามว่า “การที่ชนวสภยักษ์ประกาศว่า ‘ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ ข้าพระองค์ไม่มีทางตกต่ำ ทราบดีถึงความไม่ตกต่ำมาช้านาน’ และประกาศว่า
‘ตั้งความปรารถนาไว้เพื่อเป็นพระสกทาคามีเช่นนี้ น่าอัศจรรย์จริง ไม่เคยปรากฏ
ก็อะไรเล่าที่เป็นเหตุทำให้ชนวสภยักษ์ทราบดีว่า จะบรรลุคุณวิเศษอันยิ่งใหญ่เห็น
ปานนี้ได้”
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า “ชนวสภยักษ์ประกาศว่า ‘ข้าแต่พระผู้มีพระภาค
ข้าพระองค์มิได้เว้นจากคำสอนของพระองค์เลย ข้าแต่พระสุคต ข้าพระองค์มิได้เว้น
จากคำสอนของพระองค์เลย นับตั้งแต่วันที่ข้าพระองค์เลื่อมใสพระผู้มีพระภาค
อย่างมากเป็นต้นมา ข้าพระองค์ไม่มีทางตกต่ำ ทราบดีถึงความไม่ตกต่ำมาช้านาน
และตั้งความปรารถนาไว้เพื่อเป็นพระสกทาคามี ดังจะกราบทูลให้ทรงทราบ ข้าพระองค์
ได้รับบัญชาจากท้าวเวสวัณมหาราช ให้ไปเฝ้าท้าววิรุฬหกมหาราชด้วยธุระอย่างหนึ่ง
ระหว่างทางได้พบพระผู้มีพระภาคซึ่งกำลังเสด็จเข้าไปยังตำหนักอิฐ ประทับอยู่
ทรงตั้งพระทัยเพ่งพิจารณาเหตุการณ์ทุกอย่าง ปรารภชาวมคธผู้เคยบำรุงพระ
รัตนตรัยด้วยทรงพระดำริว่า ‘เราจะรู้คติและอภิสัมปรายภพของชาวมคธเหล่านั้นว่า
‘ผู้เจริญเหล่านั้น มีคติเป็นอย่างไรและมีอภิสัมปรายภพเป็นอย่างไร’ ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ น่าอัศจรรย์จริง ที่ข้าพระองค์ได้สดับรับมาเฉพาะพระพักตร์ท้าวเวสวัณ
มหาราชผู้กล่าวอยู่ในบริษัทนั้นว่า ‘ชาวมคธผู้เจริญเหล่านั้น มีคติเป็นอย่างไรและ
มีอภิสัมปรายภพเป็นอย่างไร’ ข้าพระองค์จึงมีความคิดดังนี้ว่า ‘เราจักเฝ้าพระผู้มี
พระภาค และจักกราบทูลเรื่องนี้ให้ทรงทราบ’ เหตุ ๒ ประการนี้แล ที่ทำให้ข้าพระองค์
ได้มาเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค
เชิงอรรถ
A ชนวสภะ แปลว่าผู้เจริญที่สุดในหมู่ชน เพราะเป็นผู้นำประชาชนฟังพระธรรมเทศนาของพระผู้มีพระภาค แล้วบรรลุพระโสดาบัน จำนวน ๑๑๐,๐๐๐ คน ยักษ์นี้ คือ พระเจ้าพิมพิสาร (ที.ม.อ. ๒๘๐/๒๔๙)
B ตั้งความปรารถนาไว้เพื่อเป็นพระสกทาคามี ในที่นี้หมายถึงเริ่มบำเพ็ญวิปัสสนา อยู่ด้วยความอุตสาหะ อย่างนี้ว่า ‘เราจักรู้แจ้งในวันนี้ เราจักรู้แจ้งในวันนี้ทีเดียว’ (ที.ม.อ. ๒๘๑/๒๔๙)

บาลี



รออัพเดต

อรรถกถา


รออัพเดต

สนทนาธรรม

comments

Comments are closed.