25-320 พระมหากัสสปะ
พระไตรปิฎก
๖. มหากัสสปสูตร
ว่าด้วยพระมหากัสสปะ
{๔๓} [๖] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเวฬุวัน กลันทกนิวาปสถาน A
เขตกรุงราชคฤห์ สมัยนั้น ท่านพระมหากัสสปะอยู่ที่ถ้ำปิปผลิคูหา อาพาธ ได้รับทุกข์
เป็นไข้หนัก ครั้งนั้น ท่านพระมหากัสสปะหายจากอาพาธนั้นแล้วมีความคิดดังนี้ว่า
“เอาละ เราควรเข้าไปบิณฑบาตยังกรุงราชคฤห์”
สมัยนั้นแล เทวดาประมาณ ๕๐๐ องค์ ถึงความขวนขวายเพื่อให้ท่านพระ
มหากัสสปะได้บิณฑบาต ท่านพระมหากัสสปะห้ามเทวดาประมาณ ๕๐๐ องค์นั้นแล้ว
ในเวลาเช้าครองอันตรวาสก ถือบาตรและจีวรเข้าไปบิณฑบาตยังกรุงราชคฤห์
ตามทางที่อยู่ของคนจน ที่อยู่ของคนกำพร้า และที่อยู่ของช่างหูก
พระผู้มีพระภาคได้ทอดพระเนตรเห็นท่านพระมหากัสสปะ กำลังเที่ยวบิณฑบาต
ตามทางที่อยู่ของคนจน ที่อยู่ของคนกำพร้า และที่อยู่ของช่างหูก
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนั้นแล้ว จึงทรงเปล่งอุทานนี้
ในเวลานั้นว่า
พุทธอุทาน B
ผู้ไม่เลี้ยงคนอื่น ผู้รู้จักตนดี
ผู้ฝึกฝนตนได้แล้ว ดำรงมั่นอยู่ในสารธรรม C
ผู้สิ้นอาสวะแล้ว ผู้คายโทษได้แล้ว D
เราเรียกว่า พราหมณ์
มหากัสสปสูตรที่ ๖ จบ
เชิงอรรถ
A หมายถึงสถานที่สำหรับพระราชทานเหยื่อแก่กระแต
(ม.มู.อ. ๒/๒๕๒/๔๑-๔๒, ขุ.อุ.อ. ๖/๖๒)
B พุทธอุทานนี้ ทรงเปล่งแสดงความเป็นผู้มั่นคงของพระขีณาสพ
โดยทรงมุ่งแสดงความเป็นผู้มักน้อยอย่างยิ่ง เป็นหลัก (ขุ.อุ.อ. ๖/๖๔)
C สารธรรม หมายถึงวิมุตติสาระ (ขุ.อุ.อ. ๖/๖๖)
D คายโทษ หมายถึงคายโทษมีราคะเป็นต้น (ขุ.อุ.อ. ๖/๖๖)
บาลี
รออัพเดต
อรรถกถา
รออัพเดต