15-257 เทพ สูตรที่ 1
พระไตรปิฎก
๑. ปฐมเทวสูตร
ว่าด้วยเทพ สูตรที่ ๑
[๙๐๕] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของ
อนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี ณ ที่นั้น ฯลฯ
[๙๐๖] พระผู้มีพระภาคจึงได้ตรัส เรื่องนี้ว่า
“ภิกษุทั้งหลาย ท้าวสักกะจอมเทพ เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์อยู่ในกาลก่อน
ได้สมาทานวัตตบท ๗ ประการอย่างบริบูรณ์ เพราะสมาทานวัตตบท ๗ ประการ
จึงได้เป็นท้าวสักกะ
วัตตบท ๗ ประการ อะไรบ้าง คือ
๑. เราพึงเลี้ยงมารดาและบิดาตลอดชีวิต
๒. เราพึงประพฤติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ในตระกูลตลอดชีวิต
๓. เราพึงพูดจาแต่คำอ่อนหวานตลอดชีวิต
๔. เราไม่พึงพูดคำส่อเสียดตลอดชีวิต
๕. เราพึงมีใจปราศจากความตระหนี่ที่เป็นมลทิน อยู่ครองเรือน มีการ
บริจาคเป็นประจำ มีมือชุ่มเป็นนิตย์ ยินดีในการเสียสละ ควรที่ผู้
อื่นจะขอ ยินดีในการแจกจ่ายทานตลอดชีวิต
๖. เราพึงพูดแต่คำสัตย์ตลอดชีวิต
๗. เราไม่พึงโกรธตลอดชีวิต ถ้าแม้ความโกรธพึงเกิดขึ้นแก่เรา เราก็จะ
กำจัดโดยฉับพลันทันที
ภิกษุทั้งหลาย ท้าวสักกะจอมเทพ เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์อยู่ในกาลก่อน
ได้สมาทานวัตตบท ๗ ประการนี้อย่างบริบูรณ์ เพราะสมาทานวัตตบท ๗ ประการ
จึงได้เป็นท้าวสักกะ”
[๙๐๗] พระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดาได้ตรัสเวยยากรณภาษิตนี้แล้ว จึงได้ตรัสคาถา-
ประพันธ์ต่อไปอีกว่า
เทพชั้นดาวดึงส์กล่าวถึงนรชนผู้เลี้ยงมารดาและบิดา
มีปกติประพฤติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ในตระกูล
เจรจาแต่คำอ่อนหวาน สมานมิตร ละคำส่อเสียด
ประกอบในอุบายกำจัดความตระหนี่ มีวาจาสัตย์
ครอบงำความโกรธได้นั้นแลว่า เป็นสัตบุรุษ
ปฐมเทวสูตรที่ ๑ จบ
บาลี
ปมเทวสุตฺต
[๙๐๕] เอก สมย ภควา สาวตฺถิย วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส
อาราเม ฯ ตตฺร โข ฯเปฯ
[๙๐๖] ภควา เอตทโวจ สกฺกสฺส ภิกฺขเว เทวานมินฺทสฺส
ปุพฺเพ มนุสฺสภูตสฺส สตฺต วตฺตปทานิ ๑ สมตฺตานิ สมาทินฺนานิ อเหสุ
เยส สมาทินฺนตฺตา สกฺโก สกฺกตฺต อชฺฌคา ฯ กตมานิ สตฺต ฯ
ยาวชีว มาตาเปตฺติภโร อสฺส ยาวชีว กุเล เชฏฺาปจายี อสฺส
ยาวชีว สณฺหวาโจ อสฺส ยาวชีว อปิสุณวาโจ อสฺส ยาวชีว
วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคาร อชฺฌาวเสยฺย มุตฺตจาโค ปยตปาณี
โวสฺสคฺครโต ยาจโยโค ทานสวิภาครโต ยาวชีว สจฺจวาโจ อสฺส
ยาวชีว อกฺโกธโน อสฺส สเจปิ เม โกโธ อุปฺปชฺเชยฺย ขิปฺปเมว
น ปฏิวิเนยฺยนฺติ ฯ สกฺกสฺส ภิกฺขเว เทวานมินฺทสฺส ปุพฺเพ มนุสฺสภูตสฺส
อิมานิ สตฺต วตฺตปทานิ ๒ สมตฺตานิ สมาทินฺนานิ อเหสุ
เยส สมาทินฺนตฺตา สกฺโก สกฺกตฺต อชฺฌคาติ ฯ
[๙๐๗] อิทมโวจ ภควา อิท วตฺวาน สุคโต อถาปร
เอตทโวจ สตฺถา
มาตาเปตฺติภร ชนฺตุ กุเล เชฏฺาปจายิน
สณฺห สขิลสมฺภาส เปสุเณยฺยปฺปหายิน
มจฺเฉรวินเย ยุตฺต สจฺจ โกธาภิภุ นร
ต เว เทวา ตาวตึสา อาหุ สปฺปุริโส อิตีติ ฯ
******************
๑-๒ ม. ยุ. วตปทานิ ฯ
อรรถกถา
อรรถกถาปฐมเทวสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในปรมเทวสูตรที่ ๑ แห่งทุติยวรรค ต่อไปดังนี้ :-
บทว่า วตฺตปทานิ ได้แก่ ส่วนแห่งวัตร. บทว่า สมตฺตานิ คือ
บริบูรณ์แล้ว. บทว่า สมาทินฺนานิ คือถือเอาแล้ว. บทว่า กุเล เชฏฺฐาปจายี
ความว่า กระทำความยำเกรงผู้เป็นใหญ่ในตระกูลเป็นต้นว่า ปู่ ย่า อา
น้า ลุง ป้า. บทว่า สณฺหวาโจ ได้แก่ มีวาจาน่ารักอ่อนหวาน. บทว่า
มุตฺตาจาโค ได้แก่ เสียสละ. บทว่า ปยตปาณี ได้แก่ ล้างมือเพื่อให้ไทย
ธรรม. บทว่า โวสฺสคฺครโต ได้แก่ ยินดีในการสละ. บทว่า ยาจโยโค
ได้แก่ เป็นผู้ควรที่คนอื่นจะพึงขอ หรือว่า ผู้ประกอบด้วยการบูชานั่นแล ชื่อว่า
ยาจโยโค. บทว่า ทานสํวิภาครโต ได้แก่ ยินดีแล้วในการให้และการแจก.
จบ อรรถกถาปฐมเทวสูตรที่ ๑