27-484 นกแขกเต้าเลี้ยงพ่อแม่



พระไตรปิฎก


๑. สาลิเกทารชาดก
ว่าด้วยนกแแขกเต้าเลี้ยงพ่อแม่

(คนเฝ้านาถูกโกสิยพราหมณ์ถามแล้ว จึงได้กล่าวว่า)
{๑๘๗๒} [๑] ท่านโกสิยะ นาข้าวสาลีบริบูรณ์ดี
แต่พวกนกแขกเต้าพากันมาจิกกิน
ข้าพเจ้าขอบอกคืนนานะท่านพราหมณ์
เพราะไม่สามารถจะห้ามพวกมันได้
[๒] แต่บรรดานกแขกเต้าเหล่านั้น
มีนกตัวหนึ่งสวยงามกว่านกเหล่านั้นทั้งหมด
กินข้าวสาลีตามความพอใจแล้วยังคาบบินไปอีก
(พราหมณ์ได้กล่าวกับคนเฝ้านาว่า)
{๑๘๗๓} [๓] เจ้าจงดักบ่วงหางสัตว์โดยวิธีที่นกนั้นจะติดบ่วง
จับเป็นแล้วนำมาให้เรา
(พญานกแขกเต้ารำพันอยู่ว่า)
{๑๘๗๔} [๔] นกทั้งหลายเหล่านั้นกิน ดื่มแล้วก็บินไป
ส่วนเราตัวเดียวติดบ่วงอยู่ เราได้ทำความชั่วอะไรไว้หนอ
(พราหมณ์กล่าวกับพญานกแขกเต้านั้นว่า)
{๑๘๗๕} [๕] นกตัวอื่นกินเฉพาะท้องเท่านั้น แต่เจ้ากินเกินท้อง
เจ้ากินข้าวสาลีตามความพอใจแล้วยังคาบบินไปอีก
[๖] ฉางที่ป่าไม้งิ้วนั้นเจ้าบรรจุไว้จนเต็มหรือ
หรือเจ้ามีเวรกับเรา เราถามแล้ว จงบอกเถิด
เพื่อน เจ้าเก็บข้าวสาลีไว้ที่ไหน
(พญานกแขกเต้ากล่าวว่า)
{๑๘๗๖} [๗] ข้าพเจ้ามิได้มีเวรกับท่าน ฉางของข้าพเจ้าก็ไม่มี
ข้าพเจ้าไปถึงยอดไม้งิ้วก็ชำระหนี้ และให้กู้ยืมหนี้
ทั้งยังฝังแม้ขุมทรัพย์ไว้ที่ยอดไม้งิ้วนั้นด้วย
ขอท่านจงทราบอย่างนี้เถิด ท่านโกสิยะ
(พราหมณ์ถามพญานกแขกเต้าว่า)
{๑๘๗๗} [๘] การให้กู้ยืมหนี้และการชำระหนี้ของเจ้าเป็นเช่นไร
เจ้าจงบอกถึงการฝังขุมทรัพย์มาซิ
เมื่อเจ้าทำดังนั้น เจ้าก็จะพ้นจากบ่วง
(พญานกแขกเต้าเมื่อตอบว่า)
{๑๘๗๘} [๙] ท่านโกสิยะ ข้าพเจ้ามีลูกอ่อนตัวเล็ก ๆ ขนปีกยังไม่งอก
ลูกนกเล็ก ๆ เหล่านั้น ข้าพเจ้าได้เลี้ยงแล้ว จักเลี้ยงข้าพเจ้า
เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าจึงให้พวกเขากู้ยืมหนี้
[๑๐] พ่อแม่ของข้าพเจ้าแก่เฒ่า ผ่านวัยหนุ่มสาวไปแล้ว
ข้าพเจ้าคาบรวงข้าวสาลีไปเพื่อท่านทั้ง ๒ นั้น
เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าจึงชำระหนี้ที่ท่านได้ให้กู้ยืมไว้ในกาลก่อน
[๑๑] ที่ป่าไม้งิ้วนั้น ยังมีนกอื่น ๆ อีก
ที่ทุพพลภาพ มีขนปีกหมดสิ้นแล้ว
ข้าพเจ้าต้องการบุญ จึงให้รวงข้าวสาลีแก่นกเหล่านั้น
บัณฑิตทั้งหลายกล่าวการทำบุญนั้นว่า เป็นขุมทรัพย์
[๑๒] การให้กู้ยืมหนี้และการชำระหนี้ของข้าพเจ้าเป็นเช่นนี้
ข้าพเจ้าบอกการฝังขุมทรัพย์แก่ท่าน
ขอท่านจงทราบอย่างนี้เถิด ท่านโกสิยะ
(พราหมณ์ฟังแล้วมีจิตเลื่อมใส จึงได้กล่าวว่า)
{๑๘๗๙} [๑๓] ปักษีนี้ดีหนอ เป็นนกแต่มีธรรมอย่างยอดเยี่ยม
ในพวกมนุษย์บางเหล่าไม่มีธรรมนี้
[๑๔] เจ้าพร้อมกับพวกญาติทั้งหมด
จงกินข้าวสาลีตามความพอใจเถิด
เจ้านกแขกเต้า เราคงได้พบกันอีก เรายินดีที่จะพบเจ้า
(พญานกแขกเต้าให้โอวาทว่า)
{๑๘๘๐} [๑๕] ข้าพเจ้าได้กินและดื่มในที่อยู่ของท่าน
แต่ในเพื่อนบ้านของท่านไม่น่ายินดีนัก
ท่านโกสิยะ ขอท่านจงให้อภัยทานในเหล่าสัตว์ผู้วางอาชญาแล้ว
และจงเลี้ยงดูบิดามารดาผู้แก่เฒ่าเถิด
(พราหมณ์มีใจยินดีเปล่งอุทานว่า)
{๑๘๘๑} [๑๖] วันนี้ โชคได้เกิดขึ้นแก่เราแล้ว
ที่เห็นนกตัวประเสริฐกว่านกทั้งหลาย
เราได้ฟังวาจาสุภาษิตของนกแขกเต้าแล้ว จักทำบุญให้มาก
(พระศาสดาเมื่อทรงประกาศความนั้นจึงตรัสว่า)
{๑๘๘๒} [๑๗] โกสิยพราหมณ์นั้นมีความยินดีเบิกบานใจ
จัดแจงข้าวและน้ำ มีจิตผ่องใส
เลี้ยงดูสมณะและพราหมณ์ทั้งหลายให้อิ่มหนำด้วยข้าวและน้ำ
สาลิเกทารชาดกที่ ๑ จบ

บาลี



รออัพเดต

อรรถกถา


รออัพเดต

สนทนาธรรม

comments

Comments are closed.