27-473 ลักษณะมิตรและผู้มิใช่มิตร
พระไตรปิฎก
๑๐. มิตตามิตตชาดก
ว่าด้วยลักษณะมิตรและผู้มิใช่มิตร
(พระราชาตรัสถามพระโพธิสัตว์ว่า)
{๑๗๑๓} [๑๒๑] วิญญูชนผู้เป็นนักปราชญ์ เป็นบัณฑิต
เห็นหรือได้ยินผู้ทำการงานอะไรบ้าง
หรือพึงพยายามอย่างไร จึงจะรู้ว่า ผู้นี้ไม่ใช่มิตร
(พระโพธิสัตว์กราบทูลลักษณะผู้มิใช่มิตรว่า)
{๑๗๑๔} [๑๒๒] คนผู้มิใช่มิตร คือ เห็นเพื่อนแล้วไม่ยิ้มแย้ม ๑
ไม่ยินดีจะสนทนากับเพื่อน ๑ ไม่สบตาเพื่อน ๑ พูดต่อต้าน ๑
{๑๗๑๕} [๑๒๓] คบศัตรูของเพื่อน ๑ ไม่คบเพื่อนของเพื่อน ๑
ห้ามปรามคนที่สรรเสริญเพื่อน ๑ สรรเสริญคนที่ด่าเพื่อน ๑
{๑๗๑๖} [๑๒๔] ไม่บอกความลับแก่เพื่อน ๑
ไม่ช่วยปกปิดความลับของเพื่อน ๑
ไม่ยกย่องการกระทำของเพื่อน ๑
ไม่สรรเสริญปัญญาของเพื่อน ๑
{๑๗๑๗} [๑๒๕] เมื่อเพื่อนฉิบหายกลับพอใจ ๑ เมื่อเพื่อนเจริญกลับไม่พอใจ ๑
ได้อาหารที่มีรสแปลกมาก็ไม่นึกถึงเพื่อน ๑
แต่นั้น ย่อมจะไม่อนุเคราะห์เพื่อนว่า
อย่างไรหนอ เพื่อนเราพึงได้ลาภจากที่นี้บ้าง ๑
{๑๗๑๘} [๑๒๖] อาการ ๑๖ ข้อดังกล่าวมานี้มีอยู่แล้วในคนที่มิใช่มิตร
พึงเป็นเหตุให้บัณฑิตได้เห็นและได้ยินแล้วรู้ได้ว่ามิใช่มิตร
(พระโพธิสัตว์กราบทูลลักษณะของมิตรว่า)
{๑๗๑๙} [๑๒๗] วิญญูชนผู้เป็นนักปราชญ์ เป็นบัณฑิต
เห็นหรือได้ยินผู้ทำการงานอะไรบ้าง
หรือชนพึงพยายามอย่างไรจึงรู้ว่า ผู้นั้นเป็นมิตร
(ได้กล่าวคาถาที่เหลือว่า)
{๑๗๒๐} [๑๒๘] คนผู้เป็นมิตร คือ เพื่อนจากไปก็คิดถึง ๑
เพื่อนกลับมาก็ยินดี ๑ หยอกล้อยิ้มย่องต่อเพื่อน ๑
ยินดีตอบสนองด้วยวาจาที่ไพเราะ ๑
{๑๗๒๑} [๑๒๙] คบเพื่อนของเพื่อนฝ่ายเดียว ๑ ไม่คบศัตรูของเพื่อน ๑
ห้ามปรามคนที่ด่าเพื่อน ๑ สรรเสริญคนที่ยกย่องเพื่อน ๑
{๑๗๒๒} [๑๓๐] บอกความลับแก่เพื่อน ๑ ช่วยปกปิดความลับของเพื่อน ๑
ยกย่องการกระทำของเพื่อน ๑ สรรเสริญปัญญาของเพื่อน ๑
{๑๗๒๓} [๑๓๑] เมื่อเพื่อนเจริญก็ยินดี ๑ เมื่อเพื่อนฉิบหายก็ไม่ยินดี ๑
ได้อาหารที่มีรสแปลกมาก็นึกถึงเพื่อน ๑
แต่นั้น ย่อมจะอนุเคราะห์เพื่อนว่า
อย่างไรหนอ เพื่อนจะได้ลาภจากที่นี้บ้าง ๑
{๑๗๒๔} [๑๓๒] อาการ ๑๖ ข้อดังกล่าวมานี้มีอยู่แล้วในคนที่เป็นมิตร
พึงเป็นเหตุให้บัณฑิตได้เห็นและได้ยินแล้วรู้ได้ว่าเป็นมิตร
มิตตามิตตชาดกที่ ๑๐ จบ
บาลี
รออัพเดต
อรรถกถา
รออัพเดต