27-459 การรังเกียจบาปเพราะเผลอไปดื่มน้ำ
พระไตรปิฎก
๕. ปานียชาดก
ว่าด้วยการรังเกียจบาปเพราะเผลอไปดื่มน้ำ
(พระปัจเจกพุทธเจ้าเมื่อจะถวายพระพรแก่พระราชา จึงได้ตรัสว่า)
{๑๕๔๒} [๕๙] อาตมาเป็นมิตรของชายคนหนึ่งได้ดื่มน้ำของมิตรที่เขามิได้ให้
เหตุนั้น ภายหลังจึงรังเกียจว่า นั้นเป็นความชั่วเราได้ทำแล้ว
เราอย่าได้ทำความชั่วอีกเลย
เพราะเหตุนั้น อาตมาจึงบวช (๑)
{๑๕๔๓} [๖๐] ก็อาตมาเห็นภรรยาของคนอื่นแล้วเกิดความรัก
เหตุนั้น ภายหลังจึงรังเกียจว่า นั้นเป็นความชั่วเราได้ทำแล้ว
เราอย่าได้ทำความชั่วอีกเลย
เพราะเหตุนั้น อาตมาจึงบวช (๒)
{๑๕๔๔} [๖๑] ขอถวายพระพรมหาบพิตร พวกโจรในป่าได้จับบิดากับอาตมา
อาตมารู้อยู่ถูกพวกโจรเหล่านั้นถาม
ก็ได้ตอบเรื่องนั้นเป็นอย่างอื่นไป
[๖๒] เหตุนั้น ภายหลังจึงรังเกียจว่า นั้นเป็นความชั่วเราได้ทำแล้ว
เราอย่าได้ทำความชั่วอีกเลย
เพราะเหตุนั้น อาตมาจึงบวช (๓)
{๑๕๔๕} [๖๓] เมื่อเขาตั้งพิธีบูชายัญชื่อโสมยาคะ A
พวกมนุษย์ได้กระทำปาณาติบาต
อาตมาได้ยินยอมอนุญาตให้แก่พวกเขา
[๖๔] เหตุนั้น ภายหลังจึงรังเกียจว่า นั้นเป็นความชั่วเราได้ทำแล้ว
เราอย่าได้ทำความชั่วอีกเลย
เพราะเหตุนั้น อาตมาจึงบวช (๔)
{๑๕๔๖} [๖๕] เมื่อก่อน ชนทั้งหลายในบ้านของอาตมา
ได้สำคัญสุราและเมรัยเหมือนน้ำหวาน
ได้ปรุงน้ำเมาเพื่อความหายนะแก่ชนจำนวนมาก
อาตมาได้ยินยอมอนุญาตให้แก่พวกเขา
[๖๖] เหตุนั้น ภายหลังจึงรังเกียจว่า นั้นเป็นความชั่วเราได้ทำแล้ว
เราอย่าได้ทำความชั่วอีกเลย
เพราะเหตุนั้น อาตมาจึงบวช (๕)
(พระราชาทรงติเตียนกามว่า)
{๑๕๔๗} [๖๗] น่าติเตียนจริง ๆ กามเป็นอันมากมีกลิ่นเหม็น
มีขวากหนามมาก เราซ่องเสพอยู่ ไม่ได้ความสุขเช่นนั้นเลย
(พระอัครมเหสีทรงสรรเสริญความสุขในกามว่า)
{๑๕๔๘} [๖๘] กามทั้งหลายน่าพอใจมาก มีความสุข
สุขที่ยิ่งกว่ากามไม่มี คนผู้ซ่องเสพกามย่อมขึ้นสวรรค์
(พระโพธิสัตว์ติเตียนกามว่า)
{๑๕๔๙} [๖๙] กามทั้งหลายน่ายินดีน้อย มีทุกข์มาก
ทุกข์ที่ยิ่งกว่ากามไม่มี คนผู้ซ่องเสพกามย่อมตกนรก
{๑๕๕๐} [๗๐] กามทั้งหลายมีทุกข์มากกว่าการใช้ดาบที่ลับดีแล้วฟัน
ใช้กริชที่ชุ่มด้วยน้ำมันแทง และใช้หอกพุ่งปักที่อก
{๑๕๕๑} [๗๑] กามทั้งหลายมีทุกข์มากกว่าการถูกฝังในหลุมถ่านเพลิง
ที่ลุกโพลงลึกเกินชั่วคนแล้วใช้ผาลที่เผาร้อนไถไปทั้งวัน
{๑๕๕๒} [๗๒] กามทั้งหลายมีทุกข์มากกว่าการดื่มยาพิษที่ร้ายแรง
กว่าการใช้น้ำมันที่เดือดพล่านรด
กว่าการตกกระทะทองแดงที่กำลังละลายคว้าง
ปานียชาดกที่ ๕ จบ
เชิงอรรถ
A ๑ คำว่า โสมยาคะ หมายความว่า เมื่อมีงานมหรสพใหม่เกิดขึ้น
พวกมนุษย์พากันทำพลีกรรมแก่ยักษ์ ฉะนั้นจึงได้ชื่อว่า พิธีโสมยาคะ
(ขุ.ชา.อ. ๖/๖๓/๓๖)
บาลี
รออัพเดต
อรรถกถา
รออัพเดต