15-263 การถวายบังคม



พระไตรปิฎก


๗. วันทนาสูตร
ว่าด้วยการถวายบังคม
[๙๒๕] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิก-
เศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคทรงหลีกเร้นประทับพักผ่อนอยู่ใน
ที่พักกลางวัน ขณะนั้น ท้าวสักกะจอมเทพและท้าวสหัมบดีพรหมเสด็จเข้าไปเฝ้า
ถึงที่ประทับ ได้ประทับยืนพิงบานประตูคนละข้าง
[๙๒๖] ลำดับนั้น ท้าวสักกะจอมเทพ
ได้ตรัสคาถานี้ในสำนักของพระผู้มีพระภาคว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้แกล้วกล้า ผู้ชนะสงครามแล้ว
ทรงปลงภาระลงแล้ว A ผู้ไม่มีหนี้
ขอพระองค์โปรดลุกขึ้น เสด็จจาริกไปในโลก
อนึ่ง ดวงพระทัยของพระองค์หลุดพ้นดีแล้ว
เหมือนดวงจันทร์ในวันเพ็ญ ฉะนั้น
[๙๒๗] ท้าวสหัมบดีพรหมตรัสค้านว่า “จอมเทพ พระองค์ไม่ควรถวายบังคม
พระตถาคตอย่างนี้เลย แต่ควรจะถวายบังคมพระตถาคตอย่างนี้ว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้แกล้วกล้า
ผู้ชนะสงคราม ผู้นำหมู่ ผู้ไม่มีหนี้
ขอพระองค์โปรดลุกขึ้น เสด็จจาริกไปในโลก
ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ขอพระองค์
จงทรงแสดงธรรมโปรดสัตว์โลกเถิด เพราะจักมีผู้รู้ธรรม B”
วันทนสูตรที่ ๗ จบ
เชิงอรรถ
A ปลงภาระลงแล้ว หมายถึงปลงขันธภาระ กิเลสภาระและอภิสังขารภาระลงแล้ว (สํ.ส.อ. ๑/๒๖๓/๓๓๔)
B ดูเทียบคาถาสุดท้ายในข้อ ๑๗๒ หน้า ๒๓๑ ในเล่มนี้

บาลี



วนฺทนสุตฺต
[๙๒๕] เอก สมย ภควา สาวตฺถิย วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส
อาราเม ฯ เตน โข ปน สมเยน ภควา ทิวาวิหารคโต
โหติ ปฏิสลฺลีโน ฯ อถ โข สกฺโก จ เทวานมินฺโท พฺรหฺมา
จ สหมฺปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ อุปสงฺกมิตฺวา ปจฺเจก
ทฺวารพาห นิสฺสาย อฏฺสุ ฯ
[๙๒๖] อถ โข สกฺโก เทวานมินฺโท ภควโต สนฺติเก อิม
คาถ อภาสิ
อุฏฺาหิ วีร วิชิตสงฺคาม
ปนฺนภาร อนณ วิจร โลเก
จิตฺตฺจ เต สุวิมุตฺต
จนฺโท ยถา ปนฺนรสาย รตฺตินฺติ ฯ
[๙๒๗] น โข เทวานมินฺท ตถาคตา เอว วนฺทิตพฺพา ฯ
เอวฺจ โข เทวานมินฺท ตถาคตา วนฺทิตพฺพา
อุฏฺาหิ วีร วิชิตสงฺคาม
สตฺถวาห อนณ วิจร โลเก
เทเสตุ ๑ ภควา ธมฺม อฺาตาโร ภวิสฺสนฺตีติ ฯ

******************

๑ โป. ม. เทสสฺสุ ฯ

อรรถกถา


อรรถกถาวันทนสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในวันทนสูตรที่ ๗ ต่อไปนี้ :-
บทว่า อุฏฺฐาหิ แปลว่า จงลุกขึ้น คือจงเพียรพยายาม. บทว่า
วิชิตสงฺคาม ความว่า ท้าวสักกะเรียกพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่างนี้ เพราะ
พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงชำนะกิเลสมีราคะเป็นต้น และไพร่พลของมารประมาณ
๑๒ โยชน์. บทว่า ปนฺนภาโร ได้แก่ มีภาระคือขันธ์ กิเลส อภิสังขาร
อัน ปลงลงแล้ว. บทว่า ปณฺณรสาย รตฺตึ คือกลางคืนขึ้น ๑๕ ค่ำ.
จบอรรถกถาวันทนสูตรที่ ๗

สนทนาธรรม

comments

Got anything to say? Go ahead and leave a comment!