15-004 กาลที่ล่วงเลยไป
พระไตรปิฎก
๔. อัจเจนติสูตร ว่าด้วยกาลที่ล่วงเลยไป
[๙] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี เทวดานั้นยืนอยู่ ณ ที่สมควรแล้ว ได้กล่าวคาถานี้ในสำนักของพระผู้มีพระภาคว่า กาล A ล่วงเลยไป คืนผ่านพ้นไป ช่วงแห่งวัย B ละไปตามลำดับ บุคคลพิจารณาเห็นภัยนี้ในมรณะ
ควรทำบุญที่นำความสุขมาให้
[๑๐] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า กาลล่วงเลยไป คืนผ่านพ้นไป ช่วงแห่งวัยละไปตามลำดับ บุคคลพิจารณาเห็นภัยนี้ในมรณะ ควรละโลกามิส มุ่งสู่สันติเถิด C อัจเจนติสูตรที่ ๔ จบ
เชิงอรรถ
A กาล ในที่นี้หมายถึงกาลมีกาลก่อนภัตรเป็นต้น (สํ.ส.อ. ๑/๔/๒๒)
B ช่วงแห่งวัย หมายถึงช่วงแห่งปฐมวัย มัชฌิมวัยและปัจฉิมวัย (สํ.ส.อ. ๑/๔/๒๒)
C ดูเทียบคาถาข้อ ๑๐๘ หน้า ๑๒๐ ในเล่มนี้
บาลี
อจฺเจนฺติสุตฺต
[๙] เอกมนฺต ิตา โข สา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิม
คาถ อภาสิ
อจฺเจนฺติ กาลา ตรยนฺติ รตฺติโย
วโยคุณา อนุปุพฺพ ชหนฺติ
เอต ภย มรเณ เปกฺขมาโน
ปฺุานิ กยิราถ สุขาวหานีติ ฯ
[๑๐] อจฺเจนฺติ กาลา ตรยนฺติ รตฺติโย
วโยคุณา อนุปุพฺพ ชหนฺติ
เอต ภย มรเณ เปกฺขมาโน
โลกามิส ปชเห สนฺติเปกฺโขติ ฯ
อรรถกถา
อรรถกถาอัจเจนติสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในสูตรที่ ๔ ต่อไป :-
บทว่า อจฺเจนฺติ แปลว่า ย่อมล่วงไป. บทว่า กาลา ได้แก่ กาลมี ปุเรภัตกาลเป็นต้น. บทว่า ตรยนฺติ รตฺติโย ได้แก่ เมื่อราตรีทั้งหลายก้าวล่วงไป ย่อมผ่านคือ ย่อมให้บุคคลที่จะตายไปใกล้ต่อความตายโดยรวดเร็ว. บทว่า วโยคุณา ได้แก่ คุณ คือ กอง (ชั้น) แห่งปฐมวัย มัชฌิมวัย และ ปัจฉิมวัย. จริงอยู่ อรรถแห่งคุณศัพท์ใช้ในอรรถหลายอย่าง เช่นในความหมายถึงชั้นแผ่นผ้า ดังพระบาลีว่า อนุชานามิ ภิกฺขเว อหตานํ วตฺถานํ ทิคุณํ สํฆาฏึ แปลว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมอนุญาตผ้าสังฆาฏิทำให้เป็น ๒ ชั้น ที่ทำด้วยผ้าใหม่ ดังนี้. มีอรรถว่า อานิสงส์ในบทนี้ว่า สตคุณา ทิกฺขิณา ปาฏิกงฺขิตพฺพา แปลว่า พึงหวังทักษิณาร้อยเท่า. อรรถแห่งคุณศัพท์ ที่มีความหมายถึงโกฏฐาสเช่นในคำว่า อนฺตํ อนฺตคุณํ แปลว่า ไส้ใหญ่ไส้น้อย. ที่มีความหมายยถึงเครื่องผูก เช่นในคำว่า ปญฺจ กามคุณา แปลว่า เครื่องผูกคือกาม ๕ อย่าง ดังนี้. แต่ในที่นี้ อรรถแห่งคุณศัพท์ ใช้ในอรรถว่า ราสิ ซึ่งแปลว่า กองหรือคณะ เพราะฉะนั้น บัณฑิตพึงทราบ บทว่า วโยคุณา นี้ว่า เป็นกองแห่งวัย ดังนี้. บทว่า อนุปุพฺพํ ชหนฺติ อธิบายว่า วัยทั้งหลายย่อมละทิ้งบุคคลไปโดยลำดับ. จริงอยู่ปฐมวัยย่อมละทิ้งบุคคลผู้ตั้งอยู่ในมัชฌิมวัย ปฐมวัย และ มัชฌิมวัย ทั้งสอง ย่อมละทิ้งบุคคลผู้ตั้งอยู่ในปัจฉิมวัย แต่ว่า ในขณะแห่งความตาย แม้วัยทั้ง ๓ ก็ต้องละทิ้งบุคคลไป. บทว่า เอตํ ภยํ ความว่า ภัย ๓ อย่างนี้ คือ การก้าวลงไปแห่งกาลทั้งหลาย ความที่ราตรี และทิวาล่วงไปโดยเร็ว และความที่กองแห่งวัยทั้งหลายต้องทอดทิ้งบุคคลไป. คำที่เหลือเช่นกับนัยก่อนนั่นแหละ.
จบอรรถกถาอัจเจนติสูตร ที่ ๔