10-169 เรื่องอุตตรมาณพ



พระไตรปิฎก


เรื่องอุตตรมาณพ
{๓๒๙}[๔๓๙] ต่อมา เจ้าปายาสิทรงเริ่มให้ทานแก่สมณพราหมณ์ คนกำพร้า
คนเดินทาง วณิพก และพวกยาจก แต่ในทานนั้นท้าวเธอประทานโภชนะเห็นปานนี้
คือ ปลายข้าวมีน้ำผักดองเป็นกับ ได้ประทานผ้าเนื้อหยาบมีชายขอดเป็นปม ๆ ในการ
ให้ทานนั้น มีอุตตรมาณพเป็นเจ้าหน้าที่
อุตตรมาณพให้ทานแล้วอุทิศอย่างนี้ว่า “ด้วยผลทานนี้ ข้าพเจ้าขออยู่ร่วมกับ
เจ้าปายาสิในโลกนี้เท่านั้น อย่าได้อยู่ร่วมกันอีกในโลกหน้าเลย”
เจ้าปายาสิทรงสดับว่า “ทราบว่า อุตตรมาณพให้ทานแล้วอุทิศอย่างนี้ว่า
‘ด้วยผลทานนี้ ข้าพเจ้าขออยู่ร่วมกับเจ้าปายาสิในโลกนี้เท่านั้น อย่าได้อยู่ร่วมกัน
อีกในโลกหน้าเลย’ ต่อมาพระองค์ จึงรับสั่งให้เรียกอุตตรมาณพมาตรัสถามว่า
“พ่ออุตตระ เธอให้ทานแล้วอุทิศอย่างนี้ว่า ‘ด้วยผลทานนี้ ข้าพเจ้าขออยู่ร่วมกับ
เจ้าปายาสิในโลกนี้เท่านั้น อย่าได้อยู่ร่วมกันอีกในโลกหน้าเลย’ จริงหรือ”
อุตตรมาณพกราบทูลว่า “จริงอย่างนั้น กระหม่อม”
เจ้าปายาสิตรัสถามว่า “พ่ออุตตระ ก็เพราะเหตุใด เธอให้ทานแล้วจึงอุทิศ
อย่างนี้ว่า ‘ด้วยผลทานนี้ ฯลฯ อย่าได้อยู่ร่วมกันอีกในโลกหน้าเลย’ พวกเรา
ต้องการบุญ หวังผลทานจริง ๆ มิใช่หรือ”
อุตตรมาณพกราบทูลว่า “ในทานของพระองค์ยังมีการประทานโภชนะเห็น
ปานนี้ คือปลายข้าวมีน้ำผักดองเป็นกับ ซึ่งพระองค์ไม่ทรงปรารถนาจะถูกต้องแม้
ด้วยพระบาท ไฉนจะเสวยเล่า อนึ่ง ผ้าก็เนื้อหยาบมีชายขอดเป็นปม ๆ ซึ่งพระองค์
ไม่ทรงปรารถนาจะถูกต้องแม้ด้วยพระบาท ไฉนจะทรงนุ่งห่มเล่า พระองค์ทรงเป็น
ที่รัก เป็นที่พอใจของพวกข้าพระองค์ พวกข้าพระองค์จะชักจูงผู้ซึ่งเป็นที่รักเป็นที่
พอใจไป ด้วยสิ่งที่ไม่น่าพอใจได้อย่างไรเล่า”
เจ้าปายาสิตรัสว่า “พ่ออุตตระ ถ้าอย่างนั้น เธอจงจัดเตรียมโภชนะชนิดเดียว
กับที่เราบริโภค จงจัดเตรียมผ้าชนิดเดียวกับที่เรานุ่งห่ม”
อุตตรมาณพทูลรับสนองพระดำรัสแล้ว จัดเตรียมโภชนะชนิดเดียวกับที่เจ้า
ปายาสิเสวย และจัดเตรียมผ้าชนิดเดียวกับที่เจ้าปายาสิทรงนุ่งห่ม
[๔๔๐] ต่อมา เพราะเหตุที่เจ้าปายาสิทรงให้ทานโดยไม่เคารพ ไม่ทรง
ให้ทานด้วยพระหัตถ์ของพระองค์ ทรงให้ทานโดยความไม่นอบน้อม แต่ทรงให้ทาน
อย่างโยนทิ้ง หลังจากถึงชีพิตักษัยแล้วจึงเข้าถึงความเป็นผู้อยู่ร่วมกับพวกเทพชั้น
จาตุมหาราช A คือ ได้วิมานว่างเปล่าชื่อเสรีสกวิมาน’ ส่วนอุตตรมาณพผู้เป็น
เจ้าหน้าที่ในการให้ทานของเจ้าปายาสินั้น ให้ทานโดยเคารพ ให้ทานด้วยมือของตน
เอง ให้ทานโดยความนอบน้อม ไม่ใช่ให้ทานอย่างโยนทิ้ง หลังจากตายแล้ว
ไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์อยู่ร่วมกับพวกเทพชั้นดาวดึงส์
เชิงอรรถ
A เข้าถึงความเป็นผู้อยู่ร่วมกับพวกเทพชั้นจาตุมหาราช ในที่นี้หมายถึงไปเกิดเป็นบริวาร ของท้าวเวสวัณมหาราช (ขุ.วิ. (แปล) ๒๖/๑๒๔๘/๑๕๘)

บาลี



รออัพเดต

อรรถกถา


รออัพเดต

สนทนาธรรม

comments

Comments are closed.