01-468 สิกขาบทวิภังค์
พระไตรปิฎก
สิกขาบทวิภังค์
{๔๑๕} [๒๙๒] คำว่า ก็… ใด คือ ผู้ใด ผู้เช่นใด ฯลฯ นี้พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ก็…ใด
คำว่า ภิกษุ มีอธิบายว่า ที่ชื่อว่าภิกษุ เพราะเป็นผู้ขอ ฯลฯ นี้ที่พระผู้มีพระ
ภาคทรงประสงค์เอาว่า ภิกษุ ในความหมายนี้
ที่ชื่อว่า ถูกราคะครอบงำแล้ว คือ มีความยินดี เพ่งเล็ง มีจิตรักใคร่
คำว่า แปรปรวน ความว่า จิตกำหนัดแล้วชื่อว่าแปรปรวนบ้าง จิตโกรธแล้ว
ชื่อว่าแปรปรวนบ้าง จิตหลงแล้วชื่อว่าแปรปรวนบ้าง แต่จิตกำหนัดแล้ว พระผู้มีพระ
ภาคทรงประสงค์ว่า แปรปรวน ในความหมายนี้
ที่ชื่อว่า มาตุคาม ได้แก่ หญิงมนุษย์ ไม่ใช่นางยักษ์ ไม่ใช่นางเปรต ไม่ใช่สัตว์
ดิรัจฉานตัวเมีย แต่เป็นหญิงที่รู้เดียงสา สามารถรับรู้ถ้อยคำสุภาษิต ทุพภาษิต คำ
หยาบและคำสุภาพ
คำว่า ต่อหน้ามาตุคาม คือ ที่ใกล้มาตุคาม ไม่ไกลจากมาตุคาม
คำว่า ความใคร่ของตน ได้แก่ ความใคร่ของตน เหตุของตน ความประสงค์
ของตน การบำเรอของตน
คำว่า นี้…ชั้นยอด คือ นี้เป็นยอด นี้ประเสริฐที่สุด นี้เป็นชั้นแนวหน้า นี้สูงสุด
นี้เป็นสิ่งเลิศ
คำว่า หญิงใด ได้แก่ หญิงวรรณะกษัตริย์ หรือวรรณะพราหมณ์ หญิงวรรณะ
แพศย์ หรือหญิงวรรณะศูทร
คำว่า เช่นเรา คือ เป็นกษัตริย์ หรือพราหมณ์ แพศย์ หรือศูทร
คำว่า มีศีล คือ ผู้เว้นขาดจากปาณาติบาต เว้นขาดจากอทินนาทาน เว้น
ขาดจากมุสาวาท
คำว่า ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ คือ ผู้เว้นขาดจากเมถุนธรรม
ที่ชื่อว่า มีกัลยาณธรรม คือ ผู้ชื่อว่ามีธรรมงามเพราะศีลนั้นและพรหมจรรย์
นั้น
คำว่า ด้วยธรรมนั่น คือ ด้วยเมถุนธรรม
คำว่า บำเรอ คือ อภิรมย์
คำว่า ด้วยคำที่พาดพิงเมถุน คือ ด้วยถ้อยคำที่เกี่ยวด้วยเมถุนธรรม
คำว่า เป็นสังฆาทิเสส ความว่า สำหรับอาบัตินั้น สงฆ์เท่านั้นให้ปริวาส ฯลฯ
เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า “เป็นสังฆาทิเสส”
บาลี
รออัพเดต
อรรถกถา
รออัพเดต